วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กิจกรรมการสร้างบาร์โค้ด 2 มิติ (QR Barcode)

กิจกรรมการสร้างบาร์โค้ด 2 มิติ (QR Barcode)

หลักการและพื้นฐานการออกแบบและนำเสนอด้วยการแถลงข่าว

เทคนิคการออกแบบและนำเสนออย่างสร้างสรรค์ด้วยการ
สถานการณ์จำลองการแถลงข่าวบริษัทเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด

ในโลกยุคที่เทคโนโลยีการสื่อสารมีการพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ "การประชาสัมพันธ์" หรือ"การส่งผ่าน่ขาวสารไปสู่สาธารณชน" เป็นไปด้วยความคล่องตัว รวดเร็ว ฉับไว หลายองค์กรศึกษาและเรียนรู้ประสิทธิภาพการสื่อสารแบบไร้พรมแดนและขีดจำกัด เพื่อนำมาใช้ในการประชาสัมพันธ์องค์กรของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมหนึ่งที่หลายองคก์รนิยมจัดขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์องค์กร และผลงานของตนสู่ประชาชน นั่นคือการจัดการแถลงข่าว
ความหมายของการแถลงข่าว
การแถลงข่าวคือการกระจายข่าวสารของเราไปสู่สาธารณชน โดยผ่านสื่อสารมวลชน ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์วิทยุสื่อส่ิ่งพิมพ์สื่ออินเตอร์เน็ต เป็นการให้ข่าวสารโดยตรงผ่านคำแถลงของผู้แถลงข่าวหรือ Spokeperson
ข้อดีของการแถลงข่าว
1. ไมผ่านการตีความจากสื่อ
2. ทำให้ข่าวสารมีความถูกต้อง ตรงตามวตัถุประสงค์ของผู้กระจายข่าวสาร
3. การแถลงข่าวยังได้รับการยอมรับว่า เป็นสิ่งสำคัญ ที่สุดอย่างหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติอีกด้วย
4. ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารในยุค ปัจจุบันผ่านสังคมออนไลน์ ได้เปิดโอกาสให้องค์กรเล็กๆ โรงเรียนสถาบันการศึกษา นักเรียนนักศึกษา หรือกลุ่มคนทั่วไป สามารถทำการแถลงข่าวได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนมากมายแต่ได้ผลในระดับที่น่าพอใจ
5. เยาวชนบางกลุ่มจดัการแถลงข่าวแล้วเผยแพร่ทางเว็ปไซด์Youtube เผยแพร่ข่าวสารทาง website,blog หรือแม้กระทั่ง Facebook, Hi5ของตนเอง ในขณะเดียวกันก็เชิญส่ือมวลชนเข้าร่วมทำข่าวควบคู่กันไปด้วย
ดังนั้น การแถลงข่าวจึงไม่ใช่อาวธุสำคัญของการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติแต่เพียงอย่างเดียวหากแต่ยังเป็นอาวธุ สำคัญในการประชาสัมพันธ์ทั่วไปอีกด้วย  ทุกอย่างอยู่ที่การเตรียมการการวางแผน และลงมือทำ ...

ขั้นตอนการแถลงข่าว
 
เริ่มต้นที่ไหนดีหากท่านหรือหน่วยงาน สถาบัน บริษัทห้างร้านของท่านต้องการจะจัดแถลงข่าวขึ้น อะไรคือสิ่งที่ต้องดำเนินการ ... จะเริ่มต้น ตรงไหน ... อย่างไร... มาดูที่การเตรียมการแถลงข่าวกันก่อน ท่านต้องตอบคำถามเหล่าน้ีให้ได้
          1. ต้องการเสนอข่าวอะไร
          2. ต้องการเสนอข่าวให้ใคร
          3. ต้องการจะนำเสนอข่าวอย่างไร
          4. ต้องการนำเสนอเมื่อใด


ต้องการเสนอข่าวอะไรข่าวที่ท่านต้องการนำเสนออาจเป็นข่าวสารและกิจกรรมทั่วไปขององคก์รเช่น การแถลงข่าว
ประจำเดือน การเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือเป็นการแถลงข่าวโครงการที่จัดทำขึ้น เช่น โครงการปลูกป่าเฉลิมพระ
เกียรติโครงการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน หรือโครงการที่น่าสนใจของบริษัทชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขององค์กร ในลักษณะของการให้ข้อเท็จจริง หรือชี้แจงความคืบหน้าของสถานการณ์ที่ไม่ปกติ


ต้องการเสนอให้ใครเป้าหมายของท่าน คือ สื่อมวลชน หรือทั้งสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ที่ร่วมรับฟังการแถลงข่าวหรือเพียงเฉพาะประชาชนทั่วไปการแถลงข่าวอย่างไม่เป็นทางการ ส่วนใหญใช้ในการเปิดตัวหนังสือเรื่องราวที่ไม่หนักมาก บรรยากาศสบายๆ ทั้งผู้แถลงและผู้ฟังไม่เหมาะสำหรับการแถลงข่าวงานหรือกิจกรรมที่มีรูปแบบเป็นทางการอย่างไรก็ตามการแถลงแบบกึ่งไม่เป็นทางการสามารถกระทำ ได้แม้สาระที่จะแถลงเป็นทางการขึ้นอยู่กับ ตัวผู้แถลง

  การใช้ Power Point มีข้อดีคือ ทำให้สามารถอธิบายได้ละเอียดผู้ฟังเห็นภาพ แต่มีข้อควรระวังคือกล้องโทรทัศน์จะจับภาพได้มากน้อยเพียงใดอันเป็นผลมาจากแสงที่ค่อนข้างมืดระหว่างการฉายอีกทั้งการอธิบายประกอบภาพ สื่อวิทยุไม่สามารถนำเสียงแถลงข่าวไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากผู้ฟังไม่สามารถเห็นภาพ

ข้อสำคัญ 10 ข้อของการแถลงข่าว

1. วางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ว่าจะทำอะไรอย่างไรเมื่อไร
คู่มือการกำหนดสถานที่แถลงข่าว- สิ่งอำนวยความสะดวกสื่อมวลชน เช่น โทรศัพท์โทรสารเครื่องถ่ายเอกสารอินเตอร์เน็ต ห้องสุขา
- ความยุ่งยากของระบบเสียง เช่น ลำโพงไมโครโฟน เสียงก้อง เสียงรบกวน หากเป็นภายนอก คำนึงถึง   เสียงลม แสงแดด
- มุมพักคอยและเครื่องดื่ม อาหารว่างของผู้สื่อข่าว

คู่มือการกำหนดเวลา
- กำหนดล่วงหน้าอย่างน้ัอย 1 สัปดาห์- ปกติควรใช้วัน อังคาร พุธ พฤหัสบดี- ไม่ตรงกับกิจกรรมที่สำคัญ อื่นๆ ท่ี่ส่ื่อมวลชนต้องไปทำข่าว
- วันพิเศษบางวัน เช่น วันประกาศผลลอตเตอรี่ สื่อจะปิดต้นฉบับเร็วมาก

2. ทำความเข้าใจกับทีมงาน ให้เข้าใจตรงกันว่า แผนเป็นอย่างไร ทำเพื่ออะไร ทำอย่างไรภารกิจทีมงานแถลงข่าว- ทีมงานต้องเตรียมการรับมือกับสิ่งที่คาดไม่ถึง เช่น ไฟดับ ไมโครโฟนไม่ดัง มีผู้ก่อกวนการแถลงข่าวผู้สื่อข่าวถามคำถามที่ไม่ควรถาม- ต้องคำนึงเสมอว่าการแถลงข่าวนี้มีความสำคัญ อย่างยิ่งในการสนับสนุนให้องค์กรบรรลุภารกิจ
- สร้างความสัมพันธ์อันดีกับสื่อ

3. เตรียมข้อมลู ข่าวสารเอกสารแผ่นพับ โปสเตอร์ที่จะใช้ในการแถลงข่าวเพื่อจัดทำ ชุดแถลงข่าว(Press kit) แจกผู้สื่อข่าวในวันแถลงข่าว4. เตรียมรายชื่อของสื่อและตัดสินใจว่าจะเชิญใครบ้าง
5. ทำหนังสือเชิญร่วมทำข่าวการแถลงข่าวและแฟ๊กซ์ให้กับ สื่ออย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการแถลงข่าว
6. เตรียมร่างคำแถลงข่าว ที่สั้น กระชับ ตรงประเด็น ไม่ควรเกิน 10 นาที พร้อมแนวทางถามตอบ
ข้อจำกัดของสื่อมวลชน- สื่อวิทยุ โทรทัศน์มีเวลาที่จำกัดในการเสนอข่าวสาร หรือบทสัมภาษณ์ (เฉลี่ยไม่เกิน 2 นาทีต่อ 1 ข่าว)- สื่อสิ่งพิมพ์มีเนื้อที่จำกัดในการเสนอข่าว หรือบทสัมภาษณ์ดังนั้น คำแถลงข่าวต้องสั้น กระชับ ตรงประเด็น
7. นำข้อมูล ทั้งหมดและคำแถลงข่าว มารวบรวมจัดทำ “ข่าวประชาสัมพันธ์” และชุดแถลงข่าวเพื่อแจกสื่อมวลชน8. โทรหาผู้สื่อข่าวอีก 2 ครั้ง
-คร้ังแรก 3 วันก่อนแถลงเพื่อยีนยันว่า ยังมีการแถลงข่าว
-คร้ังที่สอง 1 วันก่อนแถลงเพื่อยืนยันการมาร่วม
9. ในวันแถลงข่าวให้มาเตรียมการก่อนเวลา เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
ข้อควรระวัง
- มีพิธีกรเพื่อคอยช่วยผู้แถลงข่าวหรือไม่ในกรณีสื่อถามไม่ตรงประเด็น ใช้คำตอบว่า “เป็นคำถามที่ดีมากครับ แต่ต้องขออภัยด้วยที่ไม่มีการพดูถึงเรื่องนี้ในการประชุมครั้งนี้ขอผ่านเป็นคำถามต่อไป”
-ผู้แถลงข่าวต้องมีความมั่นใจ สายตาไม่ส่ายไปมาการวางมือต้องอยู่นิ่ง เพราะภาพเหล่านี้จะปรากฏต่อสายตาผู้ชมทั่วประเทศ- ตอบคำถามด้วยคำตอบสั้น ๆ ตรงประเด็น ไม่เกิน 50 วินาที เพื่อสื่อสามารถนำไปออกอากาศ หรือตีพิมพ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องสรุป
- สื่อโทรทัศน์ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 นาทีตั้งกล้องและเดินสายไมค์
- จัดโต๊ะลงทะเบียนสื่อ พร้อมแจกข่าวต่างๆ
10. เมื่อเสร็จสิ้นการแถลงข่าวให้ส่งเอกสารการแถลงข่าว ให้กับสื่อที่ไม่สามารถมาได้ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางในการแถลงข่าว ที่รวบรวมนำมาเสนอแบบคร่าวๆ




 



วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน

 “บุญคุณไหนไม่เท่าบุญคุณแม่  ที่มีแต่ความรักไม่รู้จักเหนื่อย  ท่านห่วงใยใส่ใจเราทุกเมื่อ”
   ให้นิสิตเขียนค้นหาคำคม หรือสุภาษิต ที่เกี่ยวข้องกับวันแม่ เช่น พระคุณแม่  ทำความดีอย่างไรให้กับแม่
พร้อมเขียนบทความลงในเว็บบล็อก และ Print ส่ง พร้อมนำเสนอในสัปดาห์หน้า ความยาวในการนำเสนอ
ไม่เกิน 2-3 นาที ตามหลักการพูดเพื่อการนำเสนออย่างสร้างสรรค์
ตอบ
รักอื่นใดไหนเล่าเท่ารักแม่        บริสุทธิ์เที่ยงแท้แน่หนักหนา
ส่งลูกเรียนจนเติบใหญ่ได้วิชา     เหนื่อยกายาลำบากตนสู้ทนไป

       ความรักที่แม่ให้มีค่าเท่าไหร่กัน? คำถามนี้เป็นคำถามที่แทบจะไม่ต้องใช้ความคิด เราก็
สามารถตอบได้เลย ความรักของแม่ที่มีต่อลูกทุกคนนั้นมันมากมายมหาศาลจนประเมินค่า
ไม่ได้ แม่เป็นผู้อุ้มท้องเราเป็นเวลาเก้าเดือน ต้องอดทนกับความลำบาก ความเจ็บปวดหลายๆ
อย่างจนวันที่เราลืมตาดูโลก แม่ก็ยังต้องเฝ้าดูแลเรา ต้องอดหลับ อดนอน คอยเป็นห่วงเมื่อเรา
ร้องไห้งอแง เลี้ยงดูเราด้วยความรักทะนุถนอม และเป็นสุขทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของลูก จนโตมา
เข้าเรียนก็ยังต้องส่งเสียให้เรามีการศึกษา แม่ยอมทน ยอมลำบาก ยอมเหน็ดเหนื่อย เพื่อหวัง
ให้ลูกประสบความสำเร็จ  นั่นแหละ คือ วันที่แม่มีความสุขที่สุด แต่ในวันที่คุณมีความสุขคุณ
อาจจะหลงลืมแม่ไป แต่แม่ไม่เคยอยากรู้เลยเมื่อเรามีความสุข แต่..แม่ จะเอ่ยปากถามทุกครั้ง
ที่ ลูกไม่สบายใจ อย่าปล่อยให้คนแรกที่รักเรา..เป็นคนสุดท้ายที่เราคิดถึง เคยถามตัวเองบ้าง
มั้ย?  ว่าวันนี้ คุณดูแลแม่ได้เท่าที่แม่ดูแลคุณรึยัง? เราควรรีบตอบแทนบุญคุณของแม่ก่อนจะ
ถึงวันที่สายไป เพราะนั่นอาจเป็นวันที่คุณได้แค่ร้องไห้ เสียใจ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เล

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดการแต่งกาย ให้ตอบคำถามลงใน Weblog และ Print ส่งในวันเรียนสัปดาห์ถัดไป

แบบฝึกหัดการแต่งกาย ให้ตอบคำถามลงใน Weblog และ Print ส่งในวันเรียนสัปดาห์ถัดไป
1. ประโยคที่ว่า บุคลิกดีมีชัยไปกว่าครึ่งนิสิตเห็นด้วยหรือไม่ จงให้เหตุผล Weblog
ตอบ  เห็นด้วย   เพราะสิ่งที่คนเราจะเห็นอย่างแรก คือ การแต่งตัว หน้าตา การพูด ฯ ซึ่งเปรียบเสมือนประตู ถ้าประตูนั้นดูดีก็มีแต่คนอยากพูดคุยด้วย อยากคบหาด้วย ในทางตรงกันข้ามกัน ถ้าประตูนั้นดูไม่ดี ก็ไม่อยากมีใครคบหาด้วย สิ่งเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันมาก เพราะมนุษย์สิ่งที่ต้องอยู่กับสังคม พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
การแสดงออกสำหรับบุคลิกภาพที่ดี
เป็นการแสดงออกทางด้านพฤติกรรมของบุคคล ได้แก่ มารยาท ท่าทาง การสำรวม ล้วนเป็นพฤติกรรมทั้งสิ้น บุคลิกภาพที่ดี คือ
1.               การแต่งกาย เป็นการแสดงออกทางด้านหนึ่งทางจิตใจเกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึก เจตคติ รสนิยมของแต่ละบุคคล การรู้จักการแต่งกายที่ดีให้เหมาะสมกับกาลเทศะ มีความสะอาดเรียบร้อย เหมาะสมกับรูปร่าง จึงเป็นการแสดงออกถึงจิตใจที่ดี มีพื้นฐานการอบรมมาเป็นอย่างดีจากครอบครัว และสถาบันการศึกษา นอกจากนี้ยังแสดงออกถึงความมีระเบียบ
2.               การมองบุคคล จะต้องใช้สายตาแสดงความเป็นมิตร ความมีเมตตา ความสุภาพ ซึ่งบุคคลที่พบเห็นก็จะแสดงความเป็นมิตรและให้การต้อนรับ
3.               การพูด เป็นการติดต่อสื่อสาร สื่อความหมายได้ดีที่สุด การพูดให้ผู้อื่นฟังเกิดความรู้สึกที่ดี มีความเข้าใจ และมีความสบายใจ ผู้พูดจึงต้องรู้จักศิลปะในการพูด รู้จักสภาวะของผู้ฟัง สามารถพูดชนะใจผู้ฟังได้
4.               การเดิน ควรจะเดินให้ดูแล้วสง่างาม กล่าวคือ เดินตัวตรง รู้จักจังหวะในการเดิน เดินอย่าให้มีเสียงดัง
5.               การยืน ควรยืนให้ดูมีลักษณะสวยงาม กล่าวคือ ยืนตัวตรง แขนวางลงข้างตัวตามธรรมชาติ การยืนจะต้องระวังไม่ค้ำศีรษะของบุคคลอื่น
6.               การนั่ง ในขณะที่นั่งบนเก้าอี้ ควรจะสำรวมกิริยาอาการให้มาก มองดูแล้วให้เห็นว่ามีความสุภาพ เช่น นั่งตัวตรง หัวเข่าแนบชิดกัน
7.               การไอหรือจาม จะต้องระมัดระวังให้มาก เมื่อจะไอหรือจาม จะต้องรู้จักใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากหรือปิดจมูก และจะต้องระมัดระวังไม่ให้ไปไอหรือจามรดหน้าผู้อื่น
8.               การรับประทานอาหาร ในขณะร่วมโต๊ะอาหาร ผู้ชายต้องให้เกียรติผู้หญิงโดยเชิญรับประทานอาหารและช่วยบริการช่วยตัก อาหารส่งให้โดยใช้ช้อนกลาง หรือเมื่อต้องการจะตักอาหารที่อยู่ไกลและต้องผ่านหน้าบุคคลอื่น จะต้องกล่าวคำขอโทษก่อนแล้วค่อยใช้ช้อนกลางตัก ขณะรับประทานอาหาร ระงังอย่าให้หก อย่าเคี้ยวอาหารเสียงดัง อย่าคายเศษอาหารลงบนโต๊ะ อย่าพูดเวลามีอาหารอยู่ในปาก
9.               การหยิบของหรือสิ่งต่าง ๆ ไม่ควรเอื้อมมือหยิบผ่านหน้าหรือคร่อมศีรษะบุคคลอื่นที่อยู่ข้างหน้า จะต้องร้องขอด้วยคำพูดที่สุภาพ เพื่อขอให้บุคคลอื่นช่วยหยิบสิ่งของส่งให้ เมื่อได้รับแล้วจะต้องกล่าวคำว่าขอบคุณเสมอ


2. ถ้านิสิตเป็นคนมีรูปร่างอ้วนควรแต่งกายอย่างไร พร้อมภาพประกอบ ลงใน Weblog
ตอบ  
สวมใส่เสื้อผ้าให้พอดีตัว ไม่หลวมหรือฟิตเกินไป
- เสื้อผ้าควรเป็นลายแนวตั้ง 
- ไม่ควรสวมเสื้อคอเต่า บริเวณคอควรเปิด
- ไม่สวมใส่เสื้อผ้าหลายชิ้น ให้ดูรุงรัง หรือสวมใส่เครื่องประดับมากมาย   
- กระโปรงไม่ควรใส่กระโปรงบานย้วย  ควรเป็นทรงสอบ หรือ พอดีตัว
- กางเกงควรเป็นขาทรงกระบอก หรือ ขาม้าเล็กน้อย
- รองเท้าควรใส่แบบมีส้น อาจจะ 1 นิ้วขึ้นไป
- สวมเสื้อผ้าที่เสริมไหล่
- ควรเป็นเสื้อผ้าเนื้อเรียบ เบาบาง
- เสื้อควรเป็นคอวี
- ผ้าสีเข้ม ช่วยให้ดูผอม
- ส่งที่ต้องห้ามสำหรับคนอ้วนก็คือเสื้อผ้ามันวาว ๆ เพราะความมันวาว จะขยายทุกอย่าง
  ทำให้ มันดูใหญ่โต ขึ้นอีกเป็นเท่าตัว 
- ไม่ควรเอาเสื้อใส่ในกางเกง หรือกระโปรงเพราะจะยิ่งเน้นสัดส่วนมากขึ้น




4. ถ้านิสิตได้รับมอบหมายให้แต่งกายในวันเปิดตัวแถลงข่าววีดิทัศน์หนังสั้น นิสิตจะแต่งกายอย่างไร
ตอบ  
ในกรณีใส่ชุดนิสิตนักศึกษาจะทำให้ ดูมีความสุภาพ สะอาดเรียบร้อย และควรใส่ให้ถูกต้องตามระเบียบของมหาวิทยาลัย
ไม่สวมใส่เสื้อนิสิตที่รัด กระโปรงสั้น  หรือรองเท้าแตะ 
แต่ในกรณีที่ไม่ใช่ชุดนิสิตต้องแต่งกายให้ถูกกาลเทศะ 
สวมเสื้อผ้าให้พอดีกับรูปร่าง  ไม่คับหรือหลวมเกินไป

- ใส่กระโปรงยาวได้ระดับพอดี  ไม่ใส่แบบย้วยหรือพลิ้วบาง หรือกระโปรงที่สั้นเกินไป 
-ไม่ใส่ชุดที่วาบหวาม เพราะทำให้ต้องระวังตลอดเวลา ทำให้เสียบุคลิ
-เลือกชุดที่มีสีสุภาพ ไม่ใช้ชุดที่มีสีสันหรือลวดลายมากเกินไป
-แต่งหน้าให้มีสีสันเล็กน้อย  แต่ไม่แต่งหน้าเข้มจนเกินไปหรือไม่ได้แต่งหน้าเลย  
- ใส่รองเท้าแบบรัดส้น  ไม่ใส่รองเท้าแบบแตะ
-มัดผมให้เรียบร้อยหรือติดกิ๊บ เพื่อไม่ให้ผมปรกหน้าเวลาแถลงข่าว

ภาพยนตร์หนังสั้น สะท้อนคุณธรรม..จริยธรรม เรื่อง " หนูอยากได้ "


URL ของฉันคือ >> http://youtu.be/Hw1kL7TB7lc
   ณ หอพักนิสิต มีหญิงสาว 2 คน ชื่อ ฝน กับ แป้ง  แป้งเป็นสาวไฮโซใช้แต่ของแบรนด์เนม  ในขณะที่ฝนมีฐานะที่พอมีพอ กิน  ฝนมักจะเห็นแป้งคลุกคลีอยู่กับโทรศัพท์ของเธอที่เรียกว่า BB อยู่ ตลอดเวลา  วันหนึ่งช่วงพักกลางวันที่ร้านอาหาร ฝนกับแป้งนั่งกินข้าวกัน  แล้วก็เห็นพี่แดนนั่งกินข้าวอยู่  ซึ่งฝนแอบปลื้ม รุ่นพี่คนนี้มานานแล้ว แต่ไม่กล้าขอเบอร์  เพราะตัวเองใช้โทรศัพท์เก่า แต่พี่เขาใช้ BB ที่มีราคาแพง ก็เลยปรึกษาแป้งแล้วแป้งก็เลยแนะนำฝนให้ไปซื้อ BB ฝนก็เลยโทรไปอ้อนแม่ให้ซื้อโทรศัพท์ BB ให้  แต่ แม่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อ แล้วเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือย  ฝนรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี ก็เลยประชดแม่ด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม  ฝนเริ่มที่จะลักขโมยของเงินเพื่อน เพื่อนำไปซื้อโทรศัพท์   ในที่สุดฝนก็ได้ BB มา ทำให้ฝนได้คุยกับพี่แดน แล้วก็นัดเจอกัน แต่ติดตรงที่ฝนยังไม่พร้อมเพราะเธอไม่มั่นใจในฐานะตัวเอง  เลยตัดสินใจทำ สิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิต คือ ขายตัวผ่านสื่อออนไลน์เพื่อหวังจะนำเงินมาใช้จ่าย  แต่โชคไม่เข้าข้างเธอ ทำให้เธอบังเอิญไปพบกับรุ่นพี่ที่เธอคิดว่าไว้ใจ ได้นำภาพของเธอไปเผยแพร่ทั่วมหาวิทยาลัย ทำให้ฝนอับอายอย่างมาก และทนอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้  สุดท้ายชีวิตของเธอก็พบกับบทสรุปของชีวิต ที่ต้องแลกกับอนาคตของเธอ...

บุคลิกภาพขณะนำเสนอ

บุคลิกภาพขณะนำเสนอ

บุคลิกภาพขณะนำเสนอ
สภาวะ ทุกอย่างของผู้นำเสนอ ทั้งสภาวะทางกายและจิตใจ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการกระทำในระหว่างการนำเสนอ บุคลกิภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญทำให้เรามั่นใจในขณะพูดและทำให้ผู้ฟังเกิดความ รู้สึกประทับใจและสนใจติดตามฟัง โดยไม่รู้สึกเบื่อหรือง่วงนอนก่อนที่เราจะพูดจบ

บุคลิกภาพที่ดีในการนำเสนอนั้นประกอบด้วย

- การแต่งกาย
- การใช้ภาษา
- การใช้เสียง/จังหวะการพูด
- การแสดงออกที่เหมาะสม


การแต่งกาย(Dressing)
การ แต่งกายเป็นจุดแรกที่ดึงดูดสายตาผู้คน เครื่องแต่งกายเป็นตวับ่งบอกถงึบุคลกิ นิสัย ความเป็นมืออาชีพทำให้ผ้ฟังรู้สึกประทับใจก่อให้เกิดทัศนคติที่ดีอยากติดตาม ฟัง

เทคนิคการแต่งกาย
ผม - เล็บตัดสั้น ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
เครื่องประดับ - ควรมีแต่พอเหมาะ

เสื้อผ้า
- แต่งกายให้สะอาด สุภาพ เรียบร้อย สีเรียบ ไม่ฉูดฉาด
- แต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะและสถานที่
- ไม่ควรใส่ กระโปรงยาวหรือสั้นเกินไป (สำหรับสุภาพสตรี)

การใช้ภาษา
- ใช้ภาษาให้เหมาะกับกล่ม ผู้ฟัง
- ภาษาที่ใช้ต้องมีความชัดเจน
- ใช้ภาษาที่สุภาพ อักขระถูกต้องและเข้าใจง่าย
- กะทัดรัดได้ใจความ ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย

การใช้เสียง/จังหวะการพูด
-  เป็นธรรมชาติไม่ทุ่มหรือแหลมจนเกินไป
-  พูด ด้วยความเร็วที่เหมาะสม ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป
-  พูดให้ดังและชัดเจน ไม่ใช้ระดับเสียงเดียว
-  รู้จักการใช้เสียงสูงต่ำ ในการเน้นความหมายอย่างเหมาะสม
-  เว้นวรรคคำให้ถูกต้อง

การแสดงออกที่เหมาะสม
- การใช้สายตา (Eye Contact)
- ภาษากาย (Body Language)
- การนั่งนำเสนอ
- การยื่นนำเสนอ
- มือ/แขน


การแต่งกายและบุคลิกภาพเพื่อการนำเสนออย่างสร้างสรรค์

การแต่งกายและบุคลิกภาพเพื่อการนำเสนออย่างสร้างสรรค์

การมีบุคลิกภาพที่ดี
- ต้องสุขภาพ
- ความสะอาด 
- การยิ้ม

ความเป็นมาของการแต่งกาย
1. เป็นวัฒนธรรมของแต่ละชาติ
2. มีการปลูกฝังตั้งแต่ในครอบครัว



ความสำคัญของการแต่งกาย
1.สามารถสื่อสารได้
2.ช่วยเสริมบุคลิกภาพ


หลักการแต่งกายที่ดูดี มีเสน่ห์

  • น้นความเป็นตัวของตัวเอง
  • สะอาด สุภาพ เรียบร้อย  สวยงาม
  • รู้จักดัดแปลงแก้ไข
  • สร้างเอกลักษณ์ให้กับตนเอง


ทรงผม
  • การเลือกทรงผม
  • ความสะอาด 
  • ความเรียบร้อย 
  • เหมาะสม และดูดี

เสื้อผ้า
  • สุภาพ 
  • ประณีต  
  • สะอาด 
  • ประหยัด